พ่อและลูกสาวกำลังนอนหลับ

ติดแอร์ห้องนอนขนาดเล็ก กี่ BTU เย็นเร็วขึ้น นอนหลับสบาย

ห้องนอนเล็กติดแอร์ขนาดเท่าไหร่ให้เหมาะสม

แบ่งปันเนื้อหานี้ คุณสามารถแบ่งปันรายการที่คุณชอบกับเพื่อนของคุณ

ห้องนอนเล็กติดแอร์กี่ BTU ให้เหมาะสม เย็นสบาย ไม่เปลืองไฟ

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนระอุของประเทศไทยจึงทำให้ ‘แอร์’ หรือเครื่องปรับอากาศกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นสำคัญประจำบ้านที่ขาดไปไม่ได้ เพราะหน้าที่สำคัญของแอร์คือช่วยปรับอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นฉ่ำได้ในเวลาอันรวดเร็ว และหากใครเคยผ่านประสบการณ์การซื้อแอร์ คงรู้ดีว่าขนาดห้องกับแอร์มีผลต่อกัน เพราะหากเลือกแอร์ขนาดเล็กกว่าห้องอาจทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งความเย็นไม่ถึง หรือแม้แต่การติดแอร์ที่มีขนาดใหญ่เกินไปก็อาจทำให้เปลืองค่าไฟโดยใช่เหตุเช่นกัน

 

‘ห้องนอน’ เป็นห้องสำคัญที่หลายคนนิยมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เพื่อช่วยให้อากาศเย็นสบายและช่วยให้การนอนหลับพักผ่อนเต็มที่มากขึ้น แต่ทั้งนี้หลายคนอาจกำลังตั้งคำถามว่าจริง ๆ แล้วการติดแอร์ห้องนอนขนาดเล็กควรติดแอร์กี่ BTU? จึงจะช่วยให้อากาศเย็นสบาย คุ้มค่า และไม่เปลืองไฟ หากสงสัย LG พาทุกคนไขคำตอบ พร้อมแนะนำเคล็ดลับการติดแอร์ห้องนอนให้เย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ

แม่และเด็กกำลังเล่นในห้องนอนที่มีแอร์ LG

 

BTU แอร์ต้องเหมาะสมกับห้องนอน

แอร์ขนาดเล็กเหมาะกับห้องขนาดเท่าไหร่?

ห้องเล็กติดแอร์ 12000 BTU ได้ไหม? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่งจริง ๆ แล้วคำตอบคือ ‘ได้’ แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องพิจารณาก่อนว่าห้องมีขนาดเท่าไหร่ หากขนาดห้องอยู่ระหว่าง 16 – 20 ตร.ม. หรือเป็นห้องที่รับแสงแดดโดยตรงขนาด 14 – 18 ตร.ม. การติดแอร์ขนาด 12000 BTU ถือเป็นการติดตั้งที่ถูกต้องและเหมาะสม แต่หากห้องมีขนาดเล็กกว่า 14 ตร.ม. หรือใหญ่กว่า 20 ตร.ม. ควรพิจารณาแอร์ขนาดอื่นเพิ่มเติม โดยการเลือกแอร์ติดผนังขนาดเล็กและขนาดใหญ่ให้เหมาะสมกับห้อง มีดังนี้

แอร์ขนาด 9,000 BTU

 

  • ห้องที่ไม่โดนแสงแดดจัดเหมาะกับขนาดห้อง 12 – 15 ตร.ม.
  • ห้องที่รับแสงแดดโดยตรงเหมาะกับขนาดห้อง 10 – 14 ตร.ม.

 

 

แอร์ขนาด 12,000 BTU

  • ห้องที่ไม่โดนแสงแดดจัดเหมาะกับขนาดห้อง 16 – 20 ตร.ม.
  • ห้องที่รับแสงแดดโดยตรงเหมาะกับขนาดห้อง 14 – 18 ตร.ม.



แอร์ขนาด 18,000 BTU

  • ห้องที่ไม่โดนแสงแดดจัดเหมาะกับขนาดห้อง 24 – 30 ตร.ม.
  • ห้องที่รับแสงแดดโดยตรงเหมาะกับขนาดห้อง 21 – 27 ตร.ม



แอร์ขนาด 21,000 BTU


  • ห้องที่ไม่โดนแสงแดดจัดเหมาะกับขนาดห้อง 28 – 35 ตร.ม.
  • ห้องที่รับแสงแดดโดยตรงเหมาะกับขนาดห้อง 25 – 32 ตร.ม.



แอร์ขนาด 24,000 BTU


  • ห้องที่ไม่โดนแสงแดดจัดเหมาะกับขนาดห้อง 32 – 40 ตร.ม.
  • ห้องที่รับแสงแดดโดยตรงเหมาะกับขนาดห้อง 28 – 36 ตร.ม.



แอร์ขนาด 25,000 BTU


  • ห้องที่ไม่โดนแสงแดดจัดเหมาะกับขนาดห้อง 35 – 44 ตร.ม.
  • ห้องที่รับแสงแดดโดยตรงเหมาะกับขนาดห้อง 30 – 39 ตร.ม.

 

 

หรืออาจใช้สูตรคำนวณหา BTU ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง >> BTU = [กว้าง(เมตร) x ยาว(เมตร)] x ตัวแปร โดยตัวแปรในที่นี้ ได้แก่

 

  • 1.ห้องนอนปกติและไม่โดนแดดโดยตรง = 750
    2.ห้อนอนปกติและโดนแดดโดยตรง = 800
    3.ห้องทำงานที่ไม่โดนแดด = 850
    4.ห้องทำงานที่โดนแดด = 900
    5.ร้านอาหาร ร้านค้า สำนักงานที่ไม่โดนแดด = 950 – 1,100
    6.ร้านอาหาร ร้านค้า สำนักงานที่โดนแดด = 1,000 – 1,200
    7.ห้องสัมมนา ห้องประชุม หรือร้านอาหารที่ใช้หม้อ เตา หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทำความร้อนตลอดเวลา = 1,100 – 1,500

 

ยกตัวอย่าง ห้องนอนปกติและโดนแดดโดยตรงค่าตัวแปร 800 ขนาดห้องกว้าง 5 เมตร ยาว 6 เมตร [5 เมตร x 6 เมตร] x 800 = [30] x 800 = 24,000 เพราะฉะนั้น ขนาดแอร์ที่ติดตั้งในห้องควรใช้ขนาด 24,000 BTU หรือปรับให้สูงต่ำลงได้ตามสมควร

ทั้งหมดนี้เป็นการคำนวณขนาดแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้องแบบคร่าว ๆ เท่านั้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาความเหมาะสมในเรื่องอื่น ๆ เช่น จำนวนผู้อยู่อาศัย พื้นที่ในการติดตั้ง จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง ความสูงระหว่างพื้นกับเพดานห้อง ความถี่ในการเปิดประตูเข้า-ออก ฯลฯ เพื่อให้แอร์ทำความเย็นได้อย่างเหมาะสม และตอบโจทย์ในเรื่องการประหยัดพลังงาน

ผู้หญิงกำลังกดรีโมทแอร์ LG

 

สูตรคำนวณขนาดแอร์ให้เหมาะกับห้องนอน

ฮวงจุ้ยติดแอร์ห้องนอนให้เย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ ดีต่อสุขภาพ

ติดแอร์ตรงไหนดี? เป็นคำถามยอดฮิตของคนที่เพิ่งติดแอร์ใหม่เป็นครั้งแรก หรือเคยผ่านประสบการณ์การติดแอร์ผิดตำแหน่งทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร โดยเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับการติดแอร์ให้เย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ และดีต่อสุขภาพคนในบ้าน มีดังนี้ตำแหน่งแอร์ต้องไม่ตรงกับศีรษะตามหลักของฮวงจุ้ยการติดแอร์ตรงศีรษะอาจทำให้จิตใจไม่สงบ ไม่สบายใจ แต่ในหลักความเป็นจริงการติดแอร์ตรงตำแหน่งดังกล่าวอาจทำให้เสียงการทำงานของแอร์รบกวนการนอนหลับ พักผ่อนไม่เต็มที่ และทำให้สิ่งสกปรกในแอร์หล่นลงมาโดนหน้าและเข้าจมูกทำให้ไม่สบายได้ง่าย ๆตำแหน่งของแอร์ไม่ตรงกับปลายเท้าการติดแอร์ปลายเตียง หรือมีตำแหน่งตรงกับปลายเท้า ตามหลักฮวงจุ้ยและในความเป็นจริงให้เหตุผลเดียวกัน คือทำให้เท้ามีความเย็นมากเกินไป และอาจทำให้สุขภาพอ่อนแอ เจ็บไข้ได้ง่าย แต่หากมีความจำเป็นต้องติดแอร์ตำแหน่งดังกล่าว แนะนำให้ห่มผ้าคลุมปลายเท้า หรือสวมถุงเท้าขณะนอนหลับตำแหน่งติดแอร์ต้องไม่โดนความร้อนโดยตรงตามหลักฮวงจุ้ยแล้วการติดตั้งแอร์ในทิศทางที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ และในหลักความเป็นจริงควรหลีกเลี่ยงการติดแอร์บริเวณที่แดดส่องถึง เช่น ทิศใต้และทิศตะวันออก บริเวณเหนือบานประตู หรือใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นอื่น ๆ เพราะอาจทำให้แอร์ได้รับความร้อนมากเกินไป แอร์ทำงานหนัก และมีอายุการใช้งานสั้นลงทิศทางลมแอร์หันเข้าตัวบ้านในหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าการติดแอร์ในลักษณะนี้ช่วยพัดพาสิ่งดี ๆ เข้าบ้าน ส่วนในหลักความเป็นจริงการติดแอร์ในทิศทางลมแอร์เข้าบ้านจะช่วยให้บ้านเย็นเร็วขึ้นและแอร์ไม่ทำงานหนักเกินไป ที่สำคัญต้องติดตั้งแอร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่กระจายลมได้ดี เช่น หากมีห้องนอนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าควรติดแอร์ในแนวยาว วิธีนี้ช่วยให้แอร์สามารถกระจายลมซ้ายขวาได้ทั่วทั้งห้อง หลีกเลี่ยงการวางคอมเพลสเซอร์ตากแดดตามหลักฮวงจุ้ยการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าบริเวณที่โดนแสงแดดมากเกินไปอาจไม่ดีนัก เพราะมีผลเสียต่อสุขภาพ ส่วนในหลักความเป็นจริงคอมเพลสเซอร์เป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของแอร์ ดังนั้นหลีกเลี่ยงการวางคอมเพลสเซอร์ตากแดด หรือโดนความร้อนมากเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้คอมเพลสเซอร์ทำงานหนักแล้ว ยังทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และพังได้ง่ายอีกด้วย ฮวงจุ้ยติดแอร์ห้องนอนไม่ได้สร้างแค่ความสบายใจเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สุขภาพร่างกายของคนในบ้านดีขึ้น และช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้ดีอีกด้วย นอกจากเคล็ดลับการติดตั้งแอร์ในห้องนอนให้เหมาะสมแล้ว การเลือกซื้อแอร์คุณภาพดี ที่มาพร้อมฟังก์ชันตอบโจทย์คนยุคใหม่เป็นอีกข้อสำคัญที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับการใช้งานได้ดีเช่นกัน หากกำลังมองหาแอร์ขนาดมาตรฐานที่เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก มี ระบบฟอกอากาศ ที่ดีต่อสุขภาพ LG ขอแนะนำ แอร์อินเวอร์เตอร์ DUAL COOL รุ่น IVQ13S1 ขนาด 12,000 BTU มาพร้อมเทคโนโลยีเพื่ออากาศสะอาด 5 ขั้นตอน

 

การทำงานเครื่องปรับอากาศ LG รุ่น IVQ13S1

 

แอร์อินเวอร์เตอร์ DUAL COOL รุ่น IVQ13S1 ใช้ระบบเพื่ออากาศสะอาด 5 ขั้นตอน

1.Pre-Filter ด่านชั้นแรกที่ช่วยดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ตั้งแต่เริ่มเปิดเครื่อง

 

2.FineDust Filter ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่าด่านชั้นแรก พร้อมแผ่นกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อให้อากาศสะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น

 

3.UVnano™ กำจัดแบคทีเรียภายในตัวเครื่องด้วยแสงไฟ UVC มีประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรียได้ถึง 99.99%*

 

4.Auto Cleaning ทำความสะอาดตัวเครื่องด้านในแบบอัตโนมัติ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย

 

5.Plasmaster™ Ionizer⁺⁺ ช่วยกำจัดแบคทีเรียได้ 99.9% และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศ ช่วยให้อากาศในห้องของคุณสะอาดและช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

นอกจากนี้ใช้งานง่ายด้วยแอปพลิเคชัน LG ThinQ บนสมาร์ทโฟน ที่สามารถควบคุมการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ตั้งเวลาเปิด-ปิด คำนวณค่าไฟ และเมนูควบคุมอื่น ๆ ที่ช่วยให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายมากกว่าที่เคย ทั้งนี้ LG ยังมีเครื่องปรับอากาศระบบ INVERTER อีกหลายขนาด หลายดีไซน์ หลายฟังก์ชันเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับคุณ มั่นใจได้เลยว่าเครื่องปรับอากาศ LG ช่วยทำความเย็นได้ตามต้องการ ประหยัดไฟ และดีต่อสุขภาพคนในบ้านอย่างแน่นอน หากสนใจผลิตภัณฑ์ LG สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 02-057-5757 ทุกวันเวลา 08:00 – 18:00 น. *จากผลทดสอบในห้องปฏิบัติการ TUV Rheinland (ประเทศเกาหลีใต้) พบว่า แบคทีเรีย Staphylococcus aureus, Staphylococcus epidermidis และ Klebsiella pneumonia ถูกกำจัดออกจากใบพัดลมในเครื่องปรับอากาศ 99.99% หลังจากสัมผัสกับแสง UV LED เป็นเวลา 4 ชั่วโมง **ตรวจสอบโดย TUV Rheinland และ Intertek ว่าสามารถกำจัดแบคทีเรียที่เกาะติดได้มากถึง 99.9% (Staphylococcus aureus, Escherichia coli และ Pseudomonas aeruginosa) ในห้องทดสอบขนาด 30 ตร.ม. รุ่นทดสอบ SW09BAJWAN) แต่ไม่รวมถึงประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรียในเครื่องปรับอากาศ และประสิทธิภาพ ในการกำจัดแบคทีเรียอาจแตกต่างไปจากสภาพการใช้งานจริง