We use cookies, including cookies from third parties, to enhance your user experience and the effectiveness of our marketing activities. These cookies are performance, analytics and advertising cookies, please see our Privacy and Cookie policy for further information. If you agree to all of our cookies select “Accept all” or select “Cookie Settings” to see which cookies we use and choose which ones you would like to accept.
แอลจี เปิดวิถีสุดล้ำกับการใช้ชีวิตในหนึ่งวันด้วย ‘ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์’
แอลจี เปิดวิถีสุดล้ำกับการใช้ชีวิตในหนึ่งวันด้วย ‘ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์’ ในงาน LG World Premiere
พร้อมสร้างปรากฏการณ์ใหม่! ด้วยการจำลองประสบการณ์ผู้บริโภคในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ของซีอีโอ และการนำเสนอแบบเสมือนจริง
ลาสเวกัส, 8 มกราคม 2568 – แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (แอลจี) เปิดตัววิสัยทัศน์ใหม่เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้เหนือกว่า ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI ภายใต้แนวคิด "Life's Good 24/7 with Affectionate Intelligence: ชีวิตดีทุกเวลา ด้วยความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์" ในงานแถลงข่าว LG World Premiere ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นก่อนเริ่มงาน CES 2025 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลระดับโลก
งานแถลงข่าวครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน รวมถึงสื่อมวลชนและพันธมิตรระดับโลก พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ บรรยากาศภายในงานถูกออกแบบให้สะท้อนแนวคิด ‘ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence)’ ของแอลจีอย่างเต็มรูปแบบ โดยพื้นที่ของเวทีถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนเพื่อจำลองสถานการณ์จริง แสดงให้เห็นถึงบทบาทของเทคโนโลยี AI ขั้นสูงของแอลจีที่สามารถเปลี่ยนชีวิตประจำวันให้ดียิ่งขึ้นในหลากหลายมิติ ทั้งในพื้นที่ที่พักอาศัย พื้นที่การเดินทาง และพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยการจัดแสดงในแต่ละโซนถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตจริงของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันอย่างลงตัว
‘ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence)’ จากแอลจี คือแนวทางใหม่ที่ยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์ผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการเข้าใจความต้องการและตอบสนองได้อย่างแม่นยำ โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแอลจีในการส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้า
แอลจีเปิดฉากงาน LG World Premiere ด้วยวิดีโอสุดพิเศษ ‘Less Artificial, More Human: เทคโนโลยีที่เข้าใจมนุษย์มากขึ้น’ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และแนวคิดที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของผู้คน
นายวิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอลจี ได้กล่าวในงานว่า “ที่แอลจี เรามุ่งมั่นที่จะบูรณาการเทคโนโลยี AI เข้ากับทุกมิติของพื้นที่การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย การเดินทาง พื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือแม้แต่โลกเสมือนจริง เรามองว่าแต่ละพื้นที่เหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ แต่เป็นสภาพแวดล้อมที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คนได้อย่างแท้จริง” ซีอีโอโชกล่าวเสริมว่า “อุปกรณ์และบริการต่างๆ ของแอลจีจะทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ผู้บริโภค นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence) ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้แอลจีเปล่งประกายอย่างโดดเด่น และแตกต่างอย่างชัดเจน”
ซีอีโอโชได้เน้นย้ำถึง 3 องค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของแอลจีให้เป็นจริง ได้แก่ อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย (Connected Devices), เอเจนต์ AI อัจฉริยะ (Capable AI Agents) และบริการที่ผสานเป็นหนึ่งเดียว (Integrated Services)
เริ่มจาก อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างลูกค้าและเทคโนโลยี AI ด้วยการเข้าซื้อกิจการของ Athom ผู้ให้บริการโซลูชันบ้านอัจฉริยะเมื่อปีที่ผ่านมา แอลจีสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT จากแบรนด์ชั้นนำกว่า 170 แบรนด์ทั่วโลก ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะของแอลจีได้อย่างไร้รอยต่อ
ในด้านเอเจนต์ AI อัจฉริยะ แอลจีเตรียมยกระดับ LG FURON ที่ผสานพลังของเทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์ที่พัฒนาจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ เข้ากับการตรวจจับพื้นที่แบบเรียลไทม์และการวิเคราะห์เชิงลึกจากรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภค นวัตกรรมนี้สามารถเข้าใจสถานการณ์และบริบทของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ พร้อมประสานการทำงานระหว่างอุปกรณ์และบริการต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์และตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ภายใต้การปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่เข้มงวด
แอลจีร่วมมือกับไมโครซอฟท์เสริมสร้างศักยภาพการให้บริการครบวงจรด้วย AI
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับไมโครซอฟท์เพื่อยกระดับการให้บริการแบบครบวงจร ด้วยการผสานผลิตภัณฑ์ของแอลจีเข้ากับเทคโนโลยี AI ของไมโครซอฟท์ โดยมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผ่านการผสมผสานผลิตภัณฑ์ของแอลจีและข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้าในหลากหลายพื้นที่เช่น ที่พักอาศัย การเดินทาง และพื้นที่เชิงพาณิชย์ เข้ากับเทคโนโลยี AI ของไมโครซอฟท์ เพื่อนำไปสู่การให้บริการแบบครบวงจรด้วย AI ที่เข้าใจความรู้สึกของผู้ใช้งาน
นายจัดสัน อัลธอฟฟ์ (Judson Althoff) รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า "ไมโครซอฟท์เชื่อว่า AI จะช่วยพลิกโฉมวิถีชีวิตและการทำงานของเรา และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมมือกับแอลจี ในการผสมผสานเทคโนโลยี AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของผู้คน"
ทั้งสองบริษัทกำลังร่วมมือกันเพื่อพัฒนา ‘เอเจนต์ AI’ สำหรับการใช้งานในหลากหลายพื้นที่เช่น ที่พักอาศัย ยานพาหนะ โรงแรม และสำนักงานบริษัท โดยแอลจีได้นำเทคโนโลยีการจดจำเสียงและการสังเคราะห์เสียงของไมโครซอฟท์มาใช้กับ Self-Driving AI Home Hub ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อภาษาพูดได้หลายสำเนียงและรูปแบบการสนทนา นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะพัฒนาเอเจนต์ AI ที่ไม่เพียงแต่โต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น แต่ยังสามารถคาดการณ์ความต้องการและความชอบของลูกค้าได้ล่วงหน้า
ความร่วมมือนี้ยังขยายไปยังศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยแอลจีจะนำเทคโนโลยีการจัดการความร้อนและเครื่องทำความเย็นขั้นสูงมาปรับใช้กับศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญนี้ ทั้งสองบริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
นำพาวิสัยทัศน์ด้าน AI ให้เกิดขึ้นจริง
เพื่อขยายภาพวิสัยทัศน์ 'ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence)' ของซีอีโอโช แอลจีได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมผ่านการแสดงละครสั้นที่สะท้อนถึงชีวิตประจำวันของครอบครัวหนึ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ โดยเน้นให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยี AI ของแอลจีมาปรับใช้ในชีวิตจริง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตภายใต้วิสัยทัศน์ ‘ชีวิตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน’ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AI สามารถทำให้ชีวิตประจำวันของเราเป็นเรื่องง่ายขึ้นและมีความหมายมากขึ้นในหลายด้าน
โดยฉากในตอนเช้า เอเจนต์ AI ของแอลจีชื่อว่า FURON แสดงถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับผู้ใช้งานอย่างใส่ใจ โดย FURON พูดว่า "ฉันสังเกตว่าคุณไอเมื่อคืน จึงปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสมเพื่อความสะดวกสบายของคุณมากยิ่งขึ้น" นอกจากการปรับสภาพแวดล้อมแล้ว FURON ยังสามารถให้คำแนะนำที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเช่น แนะนำให้ไปตรวจสุขภาพกับคุณแม่เมื่อไม่มีแผนในช่วงบ่าย นอกจากนี้ยังช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นด้วยการแนะนำกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกดี
ฉากการเดินทางไปทำงานในตอนเช้ายิ่งแสดงให้เห็นถึงความสะดวกสบายของการผสานเทคโนโลยี AI ในชีวิตประจำวันเช่น ระบบเซ็นเซอร์ภายในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะตรวจจับเมื่อผู้ขับขี่ลืมแก้วกาแฟ โดยจะถามผู้ใช้งานว่า "คุณต้องการแวะร้านกาแฟที่อยู่ห่างออกไปเพียง 2 นาทีหรือไม่" นอกจากนี้ ระบบยังสามารถตรวจสอบสัญญาณชีพของผู้ขับขี่ เมื่อตรวจพบอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้นก่อนการประชุมช่วงบ่าย โดยระบบจะเปิดเพลงผ่อนคลายเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายขึ้น ระบบยังแนะนำเส้นทางใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ และหากการจราจรติดขัดจนอาจทำให้พลาดการประชุมสำคัญ ก็จะแนะนำให้เข้าประชุมผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ภายในรถแทนอีกด้วย เมื่อมาถึงที่ทำงาน AI ยังสร้างความรู้สึกสนิทชิดเชื้อด้วยการแสดงภาพวิดีโอวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัวที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้บนกล้องทั้งภายในและภายนอกรถ
หลังเลิกงาน โทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นที่ติดตั้งเทคโนโลยี AI จะช่วยยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้าน โดยวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการรับชม รูปแบบ และประวัติการรับชม เพื่อแนะนำเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้ชม หากผู้ใช้งานบอกว่าได้ยินบทสนทนาไม่ชัดเจน AI จะปรับแต่งเสียง โดยเพิ่มความชัดเจนของเสียงพูดด้วยการแยกเสียงออกจากเสียงรบกวนโดยรอบ และทำให้ราวกับว่าเสียงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติจากกลางจอโทรทัศน์
การสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคอย่างไร้รอยต่อและครบวงจร
ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว ซีอีโอโชได้เน้นย้ำถึงบทบาทของ AI ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทั้งในภาคธุรกิจ B2C (ธุรกิจถึงผู้บริโภค) และ B2B (ธุรกิจถึงธุรกิจ) โดยเน้นย้ำถึงนวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง LG Smart Cottage ซึ่งเป็นบ้านโมดูลาร์ขนาดกะทัดรัดที่ผสานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระบบ HVAC และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ เพื่อสร้างนิยามใหม่ของการอยู่อาศัย ในทำนองเดียวกัน แอลจีมองว่ารถยนต์เป็นเสมือน "พื้นที่ดิจิทัลส่วนตัว" ที่มาพร้อมโซลูชันยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี AI ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ล้ำสมัย
ในด้านโซลูชันโรงงานอัจฉริยะ แอลจีใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านการผลิตระดับโลกกว่า 60 ปี เพื่อนำเสนอระบบการผลิตยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และหุ่นยนต์ นอกจากนี้ ระบบจัดการความร้อนที่ใช้ AI และเทคโนโลยีเครื่องทำความเย็นขั้นสูงของแอลจี กำลังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลก
"เป้าหมายสูงสุดของเรามีความเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง คือการใช้ AI เป็นเครื่องมือในการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าแบบองค์รวม ไม่ว่าคุณจะอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม" ซีอีโอโช กล่าว "ไม่ว่า AI จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราอย่างไร สิ่งหนึ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงคือคำมั่นสัญญาของเรา นั่นคือ 'Life's Good.' และด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่สั่นคลอนนี้ เรายังคงมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมให้กับลูกค้าของเรา ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น สำหรับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา"
- PREVIOUS
Multi Vi x KMITL 16/12/2024
https://www.lg.com/content/lge/th/th/about-lg/press-media/ces_2025_lg_unveil_a_day_in_a_life_with_affectionate.html isCopied
paste