We use cookies, including cookies from third parties, to enhance your user experience and the effectiveness of our marketing activities. These cookies are performance, analytics and advertising cookies, please see our Privacy and Cookie policy for further information. If you agree to all of our cookies select “Accept all” or select “Cookie Settings” to see which cookies we use and choose which ones you would like to accept.
BTU แอร์ ย่อมาจากอะไร ทำไมถึงควรรู้ก่อนซื้อแอร์
BTU แอร์ หรือ British Thermal Unit คือสิ่งที่มักจะได้ยินบ่อย ๆ เวลาที่ต้องเลือกซื้อแอร์ ซึ่งเรามักจะได้ยินจากพนักงานขายที่ร้าน หรือบนชื่อสินค้าทั้งบนเว็บไซต์ Marketplace และแอปพลิเคชัน E-Commere ต่าง ๆ คำถามที่พบได้บ่อยใน Search Engine ก็มักจะเป็นคำว่า BTU คืออะไร
ในวันนี้ LG มีคำตอบมาให้สำหรับผู้ที่จะเลือกซื้อแอร์เป็นครั้งแรก เพื่อที่จะได้แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง ใช้งานแล้วเย็นสบาย ไม่ร้อนไม่หนาว ช่วยให้อายุการใช้งานยาวนาน และไม่เปลืองค่าไฟจนเกินไป
BTU แอร์คืออะไร?
คำนิยามของ BTU คือ หน่วยวัดปริมาณพลังงานที่เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ต้องใช้ในการนำความร้อนออกจากภายในบ้าน ในเวลา 1 ชั่วโมง (ซึ่งเป็นหน่วยเดียวกันทั้งฮีทเตอร์และแอร์) หากกล่าวให้แคบลงก็คือ 1 BTU จะเท่ากับปริมาณความร้อน (จากการใช้พลังงาน) ที่ต้องใช้ในการลดหรือเพิ่มอุณหภูมิ 1°F (-17.22°C) ให้กับน้ำปริมาณ 1 ปอนด์ (0.453592 ลิตร)
โดยมากผู้ผลิตแอร์ทุก ๆ แบรนด์จะมีให้เลือกขนาดแอร์ตั้งแต่ประมาณ 9,000 - 25,000 BTU สำหรับแอร์บ้าน ซึ่งก็อาจจะมีแอร์ขนาดถึง 50,000 BTU บ้าง แต่ไม่ได้แพร่หลายมากนัก เนื่องจากที่พักอาศัยทั่วไปมักไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่พอเหมาะ เว้นแต่มีการออกแบบเฉพาะทาง เช่น เป็นห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีชั้น 2 เป็นชั้นลอยแบบเปิดโล่งและเชื่อมโยงกับห้องนั่งเล่นชั้น 1
หลาย ๆ ครั้งมักการถามว่า แอร์มีกี่ BTU คำตอบหลักๆ อิงจากสินค้าแอร์ในตลาดที่พบได้บ่อย คือ 9000 BTU, 12000 BTU, 15000 BTU, 18000 BTU, 20000 BTU และ 24000 BTU
ทำไมถึงต้องเลือก BTU แอร์ตามขนาดของห้อง
ขนาด BTU แอร์ จะมีผลอย่างมากกับขนาดพื้นที่ที่ติดตั้งแอร์ เพราะขนาดห้องกับแอร์ที่สัมพันธ์กันจะทำให้แอร์ทำงานมีประสิทธิภาพ ห้องจะเย็นตามเวลาและความเหมาะสม โดยไม่ทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักเกินไป และไม่กินไฟมากเกิน
หากติดตั้งแอร์ที่ BTU สูงเกินขนาดห้อง
หากติดตั้งแอร์ที่มีขนาด BTU แอร์ สูงเกินขนาดห้อง จะมีผลให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากแอร์จะมีการตัดรอบหรือลดรอบการทำงานถี่ขึ้น (เพราะอุณหภูมิห้องจะลดลงตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากขนาด BTU แอร์ที่สูง) นอกจากนี้ฟีเจอร์ลดความชื้นของห้องก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
หากติดตั้งแอร์ที่ BTU ต่ำกว่าขนาดห้อง
แอร์จะต้องทำงานต่อเนื่องแบบไม่สามารถตัดรอบหรือลดรอบการทำงานได้ เนื่องจากขนาดพื้นที่ห้องใหญ่เกินกว่าศักยภาพของแอร์ ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักเพื่อลดอุณหภูมิให้ได้ตามค่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้ นอกจากห้องจะไม่ค่อยเย็นแล้ว แอร์ก็อาจจะเสียเร็วขึ้นด้วยง
วิธีคำนวณ BTU แอร์ ที่แสนเรียบง่าย เข้าใจเร็ว
สูตรคํานวณขนาดห้องเพื่อติดแอร์นั้นจะฟังดูซับซ้อนสำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อแอร์เป็นเครื่องแรก เพราะสิ่งที่ทำให้ดูยุ่งยากที่สุดก็คือการคำนวณพื้นที่ของห้อง แต่เมื่อได้สัดส่วนของห้องแล้ว การคำนวณหา BTU แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้องก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนอีกต่อไป เพราะขนาดพื้นที่ห้องสามารถนำมาใช้ได้ตลอด เนื่องจากเป็นค่าที่ตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง และแอร์ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานยาวนาน
ปัจจัยหลักการคำนวณหา BTU แอร์ที่เหมาะสมกับห้อง
ขนาดพื้นที่ของห้อง : ตารางเมตร (กว้าง x ยาว)
ความสูงจากพื้นห้องถึงเพดาน
ตัวแปร เช่น ทิศทางการรับแดด หน้าต่าง และแหล่งความร้อนอื่น ๆ ภายในห้อง
สูตรคํานวณ BTU แอร์
สูตรคำนวณหา BTU แอร์ ในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกัน เนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น การใช้หน่วยวัดแบบเมตริกและอิมพีเรียล, ที่ตั้งของประเทศและทิศทางของแสงแดด รวมถึงข้อมูลของผู้ผลิตแต่ละเจ้า เป็นต้น แต่พื้นฐานการคำนวณหลัก ๆ จะเป็นการกำหนดให้ 1 ตารางเมตร/700-800 BTU
โดยสูตรที่นิยมใช้ มีสองแบบ
- แบบอิงพื้นที่
(กว้าง × ยาว) × BTU ต่อตารางเมตร
- แบบอิงปริมาตร
(กว้าง × ยาว × สูง) x BTU ต่อตารางเมตร
สูตรคำนวณหา BTU แอร์ แบบที่นิยมที่สุดในไทยคือแบบอิงพื้นที่ หากสมมุติให้ห้องที่ต้องการติดแอร์ เป็นห้องนอนที่นอนคนเดียว มีขนาด กว้าง 3 เมตร, ยาว 3.5 เมตร, เพดานสูงจากพื้น 2.4 เมตร มีหน้าต่าง และหันหน้าเยื้องไปทางทิศใต้ซึ่งรับแสงแดดตลอดวัน
สำหรับตัวแปรที่นิยมใช้จะเกิดจากปัจจัยต่อไปนี้
ตัวแปร | ค่า BTU ที่ต้องปรับ |
---|---|
ความสูงเพดาน > 2.4 เมตร | +10-12% ต่อ 30 ซม. |
การรับแสงแดดโดยตรง | +10-20% |
ไม่รับแสงแดดเลย | ติ-10% |
เขตร้อนชื้น (เช่น ประเทศไทย) | +10% |
จำนวนคนที่มากกว่า 2 คน | +600 BTU ต่อคน |
ติดตั้งในห้องครัว (มีแหล่งกำเนิดความร้อน)+4,000 BTU | +4,000 BTU |
BTU ที่เหมาะกับขนาดห้อง = (กว้าง × ยาว) × BTU ต่อตารางเมตร + ตัวแปร
= (3 × 3.5) × 800 + 30%
= (10.5) × 800 + 30%
= 10,920
เมื่อได้ BTU แอร์ที่เหมาะสมก็อาจเพิ่มตัวเลขเผื่อไปอีกเล็กน้อย ในที่นี้ได้ 10,920 BTU ก็อาจซื้อแอร์ที่มี BTU สูงกว่าเล็กน้อยที่ราว ๆ 12,000 BTU (ไม่ควรซื้อแอร์ที่ BTU น้อยกว่า 10,920 BTU)
BTU แอร์ เรื่องที่เหมือนซับซ้อนแต่ที่จริงเข้าใจง่าย
การคำนวณหา BTU แอร์ก็คล้ายกับเรื่องอื่น ๆ ที่เราไม่รู้ ซึ่งมักจะฟังดูยากเสมอ โดยเฉพาะในครั้งแรกที่เพิ่งได้ทำความรู้จัก แต่ในความเป็นจริง การคำนวณหา BTU แอร์นั้นง่ายพอ ๆ กับโจทย์วิชาคณิตพื้นฐานอย่าง บวก ลบ คูณ หาร ที่เมื่อเข้าใจหลักการพื้นฐานแล้ว ก็จะสามารถหยิบยกมาใช้งานได้ทันที
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.LG.com และพิเศษสุด ๆ คุ้มยิ่งขึ้นกับสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก LG Member ที่ยกขบวนทั้งส่วนลดและบริการสุดพิเศษมาให้คุณ เพียงแค่สมัครสมาชิก LG Member
รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)
Special Offer ผ่อน 0% สูงสุดถึง 18 เดือน *เฉพาะบัตรที่ร่วมรายการร
แอลจีบริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ พร้อม Exclusive Care+ สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ
สมัคร LG Member เพื่อรับสิทธิพิเศษ
ติดต่อ LG
โทรศัพท์: 02 057 5757
ทุกวัน 8:00 - 18:00 น.
Line: @lgthailand
อีเมล: supportlgeth@lge.com
* ตรวจสอบเงื่อนไขส่วนลดและสิทธิพิเศษ LG Member ได้ที่ https://www.lg.com/th/membership/