BTU แอร์ ย่อมาจากอะไร ทำไมถึงควรรู้ก่อนซื้อแอร์

คู่รักกับสุนัขในห้องที่เย็นสบายเพราะ BTU แอร์พอดีกับห้อง

BTU แอร์ ย่อมาจากอะไร ทำไมถึงควรรู้ก่อนซื้อแอร์

2025-03-04

BTU แอร์ หรือ British Thermal Unit คือสิ่งที่มักจะได้ยินบ่อย ๆ เวลาที่ต้องเลือกซื้อแอร์ ซึ่งเรามักจะได้ยินจากพนักงานขายที่ร้าน  หรือบนชื่อสินค้าทั้งบนเว็บไซต์ Marketplace และแอปพลิเคชัน E-Commere ต่าง ๆ คำถามที่พบได้บ่อยใน Search Engine ก็มักจะเป็นคำว่า BTU คืออะไร

 

ในวันนี้ LG มีคำตอบมาให้สำหรับผู้ที่จะเลือกซื้อแอร์เป็นครั้งแรก เพื่อที่จะได้แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง ใช้งานแล้วเย็นสบาย ไม่ร้อนไม่หนาว ช่วยให้อายุการใช้งานยาวนาน และไม่เปลืองค่าไฟจนเกินไป

 

BTU แอร์คืออะไร?

 

คำนิยามของ BTU คือ หน่วยวัดปริมาณพลังงานที่เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ต้องใช้ในการนำความร้อนออกจากภายในบ้าน ในเวลา 1 ชั่วโมง (ซึ่งเป็นหน่วยเดียวกันทั้งฮีทเตอร์และแอร์) หากกล่าวให้แคบลงก็คือ 1 BTU จะเท่ากับปริมาณความร้อน (จากการใช้พลังงาน) ที่ต้องใช้ในการลดหรือเพิ่มอุณหภูมิ 1°F (-17.22°C) ให้กับน้ำปริมาณ 1 ปอนด์ (0.453592 ลิตร)

 

โดยมากผู้ผลิตแอร์ทุก ๆ แบรนด์จะมีให้เลือกขนาดแอร์ตั้งแต่ประมาณ 9,000 - 25,000 BTU สำหรับแอร์บ้าน ซึ่งก็อาจจะมีแอร์ขนาดถึง 50,000 BTU บ้าง แต่ไม่ได้แพร่หลายมากนัก เนื่องจากที่พักอาศัยทั่วไปมักไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่พอเหมาะ เว้นแต่มีการออกแบบเฉพาะทาง เช่น เป็นห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีชั้น 2 เป็นชั้นลอยแบบเปิดโล่งและเชื่อมโยงกับห้องนั่งเล่นชั้น 1

 

หลาย ๆ ครั้งมักการถามว่า แอร์มีกี่ BTU คำตอบหลักๆ อิงจากสินค้าแอร์ในตลาดที่พบได้บ่อย คือ 9000 BTU, 12000 BTU, 15000 BTU, 18000 BTU, 20000 BTU และ 24000 BTU

 

 

ทำไมถึงต้องเลือก BTU แอร์ตามขนาดของห้อง

 

ขนาด BTU แอร์ จะมีผลอย่างมากกับขนาดพื้นที่ที่ติดตั้งแอร์ เพราะขนาดห้องกับแอร์ที่สัมพันธ์กันจะทำให้แอร์ทำงานมีประสิทธิภาพ ห้องจะเย็นตามเวลาและความเหมาะสม โดยไม่ทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักเกินไป และไม่กินไฟมากเกิน

 

  • หากติดตั้งแอร์ที่ BTU สูงเกินขนาดห้อง

 

หากติดตั้งแอร์ที่มีขนาด BTU แอร์ สูงเกินขนาดห้อง จะมีผลให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากแอร์จะมีการตัดรอบหรือลดรอบการทำงานถี่ขึ้น (เพราะอุณหภูมิห้องจะลดลงตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากขนาด BTU แอร์ที่สูง) นอกจากนี้ฟีเจอร์ลดความชื้นของห้องก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

 

  • หากติดตั้งแอร์ที่ BTU ต่ำกว่าขนาดห้อง

 

แอร์จะต้องทำงานต่อเนื่องแบบไม่สามารถตัดรอบหรือลดรอบการทำงานได้ เนื่องจากขนาดพื้นที่ห้องใหญ่เกินกว่าศักยภาพของแอร์ ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักเพื่อลดอุณหภูมิให้ได้ตามค่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้ นอกจากห้องจะไม่ค่อยเย็นแล้ว แอร์ก็อาจจะเสียเร็วขึ้นด้วยง

 

วิธีคำนวณ BTU แอร์ ที่แสนเรียบง่าย เข้าใจเร็ว

 

 

สูตรคํานวณขนาดห้องเพื่อติดแอร์นั้นจะฟังดูซับซ้อนสำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อแอร์เป็นเครื่องแรก เพราะสิ่งที่ทำให้ดูยุ่งยากที่สุดก็คือการคำนวณพื้นที่ของห้อง แต่เมื่อได้สัดส่วนของห้องแล้ว การคำนวณหา BTU แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้องก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนอีกต่อไป เพราะขนาดพื้นที่ห้องสามารถนำมาใช้ได้ตลอด เนื่องจากเป็นค่าที่ตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง และแอร์ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานยาวนาน

 

ปัจจัยหลักการคำนวณหา BTU แอร์ที่เหมาะสมกับห้อง

 

  • ขนาดพื้นที่ของห้อง : ตารางเมตร (กว้าง x ยาว)

  • ความสูงจากพื้นห้องถึงเพดาน

  • ตัวแปร เช่น ทิศทางการรับแดด หน้าต่าง และแหล่งความร้อนอื่น ๆ ภายในห้อง

 

สูตรคํานวณ BTU แอร์

 

สูตรคำนวณหา BTU แอร์ ในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกัน เนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น การใช้หน่วยวัดแบบเมตริกและอิมพีเรียล, ที่ตั้งของประเทศและทิศทางของแสงแดด รวมถึงข้อมูลของผู้ผลิตแต่ละเจ้า เป็นต้น แต่พื้นฐานการคำนวณหลัก ๆ จะเป็นการกำหนดให้ 1 ตารางเมตร/700-800 BTU

 

โดยสูตรที่นิยมใช้ มีสองแบบ

 

  • แบบอิงพื้นที่

(กว้าง × ยาว) × BTU ต่อตารางเมตร

 

  • แบบอิงปริมาตร

(กว้าง × ยาว × สูง) x BTU ต่อตารางเมตร

 

สูตรคำนวณหา BTU แอร์ แบบที่นิยมที่สุดในไทยคือแบบอิงพื้นที่ หากสมมุติให้ห้องที่ต้องการติดแอร์ เป็นห้องนอนที่นอนคนเดียว มีขนาด กว้าง 3 เมตร, ยาว 3.5 เมตร, เพดานสูงจากพื้น 2.4 เมตร มีหน้าต่าง และหันหน้าเยื้องไปทางทิศใต้ซึ่งรับแสงแดดตลอดวัน

 

สำหรับตัวแปรที่นิยมใช้จะเกิดจากปัจจัยต่อไปนี้

 

 

ตัวแปรค่า BTU ที่ต้องปรับ
ความสูงเพดาน > 2.4 เมตร

+10-12% ต่อ 30 ซม.

การรับแสงแดดโดยตรง+10-20%

ไม่รับแสงแดดเลย
(เช่น ห้องที่หันไปทางทิศเหนือ และไม่ชิดฝั่งตะวันออก และ ตะวันตก

ติ-10%

เขตร้อนชื้น

(เช่น ประเทศไทย)

+10%

จำนวนคนที่มากกว่า 2 คน

+600 BTU ต่อคน
ติดตั้งในห้องครัว (มีแหล่งกำเนิดความร้อน)+4,000 BTU+4,000 BTU

 

 

 BTU ที่เหมาะกับขนาดห้อง = (กว้าง ×  ยาว) ×  BTU ต่อตารางเมตร + ตัวแปร 

= (3 × 3.5) × 800 + 30%

= (10.5) × 800 + 30%

= 10,920

 

เมื่อได้ BTU แอร์ที่เหมาะสมก็อาจเพิ่มตัวเลขเผื่อไปอีกเล็กน้อย ในที่นี้ได้ 10,920 BTU ก็อาจซื้อแอร์ที่มี BTU สูงกว่าเล็กน้อยที่ราว ๆ 12,000 BTU (ไม่ควรซื้อแอร์ที่ BTU น้อยกว่า 10,920 BTU)

 

BTU แอร์ เรื่องที่เหมือนซับซ้อนแต่ที่จริงเข้าใจง่าย

 

การคำนวณหา BTU แอร์ก็คล้ายกับเรื่องอื่น ๆ ที่เราไม่รู้ ซึ่งมักจะฟังดูยากเสมอ โดยเฉพาะในครั้งแรกที่เพิ่งได้ทำความรู้จัก แต่ในความเป็นจริง การคำนวณหา BTU แอร์นั้นง่ายพอ ๆ กับโจทย์วิชาคณิตพื้นฐานอย่าง บวก ลบ คูณ หาร ที่เมื่อเข้าใจหลักการพื้นฐานแล้ว ก็จะสามารถหยิบยกมาใช้งานได้ทันที

 

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.LG.com และพิเศษสุด ๆ คุ้มยิ่งขึ้นกับสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก LG Member ที่ยกขบวนทั้งส่วนลดและบริการสุดพิเศษมาให้คุณ เพียงแค่สมัครสมาชิก LG Member

 

  • รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)

  • Special Offer ผ่อน 0% สูงสุดถึง 18 เดือน *เฉพาะบัตรที่ร่วมรายการร

  • แอลจีบริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ พร้อม Exclusive Care+ สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ

 

 

สมัคร LG Member เพื่อรับสิทธิพิเศษ

 

ติดต่อ LG
โทรศัพท์: 02 057 5757

ทุกวัน 8:00 - 18:00 น.

Line: @lgthailand

อีเมล: supportlgeth@lge.com

 

* ตรวจสอบเงื่อนไขส่วนลดและสิทธิพิเศษ LG Member ได้ที่ https://www.lg.com/th/membership/