เครื่องอบผ้ากลายมาเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถทำให้ผ้าแห้งไว ประหยัดเวลาได้มากกว่าตากผ้าท่ามกลางแสงแดด ทั้งยังช่วยให้ผ้าแห้งสนิทได้ในช่วงหน้าฝนที่มีหยดน้ำโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องอบผ้าแห้งกลายเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดี เพื่อให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและยาวนาน ทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้มากถึง 99.9% อีกด้วย

สำหรับเครื่องอบผ้าได้มีการสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1800 โดย M. Pochon นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นลักษณะการใช้มือหมุน กระทั่งปี ค.ศ. 1892 ทางด้าน George T. Sampson ได้มีการพัฒนาและจดสิทธิบัตรเครื่องอบผ้าอัตโนมัติครั้งแรก ซึ่งถูกนำมาใช้กันมากขึ้นในศตวรรษที่ 19
กระนั้นด้วยวิธีการอบผ้าด้วยเปลวไฟ ทำให้เสื้อผ้าของผู้ใช้งานมักเกิดปัญหาเรื่องกลิ่นควันและคราบเขม่าตามมา กระทั่งได้มีการพัฒนาจนลดความกังวลเรื่องเสื้อผ้าไหม้และสามารถทำให้ผ้าแห้งได้เร็วขึ้นในทุกสภาพอากาศ อย่างไรก็ดีในช่วงปลาย ค.ศ. 1930 และ ต้น ค.ศ. 1940 ได้มีการใช้งานเครื่องอบแห้งประเภทใช้แก๊สและไฟฟ้ามากขึ้น โดยนักออกแบบอุตสาหกรรม Brooks Stevens ได้พัฒนาเครื่องอบผ้าแบบหน้าต่างกระจกขึ้นมาในช่วงต้นปี 1940 ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนเป็นต้นแบบการพัฒนาที่ก้าวมาสู่ยุคปัจจุบันนั่นเอง

• ความจุผ้าที่ต้องการใช้งาน

การเลือกซื้อเครื่องอบผ้า ควรคำนวณจากจำนวนสมาชิกภายในบ้านหรือผู้ใช้งาน เพราะจะทำให้ทราบได้ว่าต้องซื้อเครื่องความจุเท่าใด โดยมีตั้งแต่ 4 ถึง 10 กิโลกรัม ซึ่งการเลือกซื้อขนาดที่เหมาะสมทำให้ประหยัดเวลาและพลังงานได้มาก เนื่องจากไม่ต้องแบ่งเสื้อผ้าในการอบแต่ละครั้ง


• ตัดสินใจจากผ้าที่ต้องการใช้งาน
นอกจากพิจารณาจากสมาชิกภายในบ้านแล้ว ควรเลือกดูจากชนิดของผ้าที่นำมาใช้งานด้วย เพราะแม้ชีวิตประจำวันจะเน้นเรื่องการใช้อบเสื้อผ้าให้แห้งเป็นหลัก แต่ในแง่ของการทำความสะอาด จำพวกอุปกรณ์การนอนสมควรต้องนำเครื่องอบผ้ามาใช้ร่วมด้วยเช่นกัน อาทิ ผ้านวม ผ้าปูที่นอน เป็นต้น ซึ่งเครื่องอบผ้าขนาดใหญ่จะค่อนข้างตอบโจทย์ครอบคลุมได้ดี

• พื้นที่จัดวางเครื่องอบผ้า

การติดตั้งเครื่องอบผ้าควรจัดวางไว้ในพื้นที่ที่กว้างขวางมากพอต่อการใช้งาน โดยอย่างน้อยควรเผื่อพื้นที่ด้านหน้าของเครื่องเพื่อกะระยะการเปิดฝาหน้า รวมไปถึงการวางตะกร้าเพื่อนำเสื้อผ้าเข้าเครื่องให้เรียบร้อย ไม่อึดอัด โดยบางบ้านอาจวางข้างกับเครื่องซักผ้าแต่ในทางกลับกันบางรุ่นเป็นได้ทั้งเครื่องซักผ้าและอบผ้าในตัวเดียว ซึ่งนับว่าช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก

• พิจารณาจากฟังก์ชันการใช้งาน

เครื่องอบผ้าแต่ละรุ่นมักจะมีการปรับปรุงฟังก์ชันเพื่อชูนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่แล้ว ทำให้มีออปชันเสริมและระบบเครื่องอบผ้าที่แตกต่างกันออกไป อาทิ การทำงานเงียบ ประหยัดพลังงาน ถนอมผ้า เป็นต้น

• เลือกซื้อตามงบประมาณ

การซื้อเครื่องอบผ้าตามงบประมาณที่กำหนดไว้ จะช่วยให้ผู้ซื้อไม่เสียเงินมากเกินความจำเป็น แต่อาจต้องใช้การพิจารณามากหน่อย เพราะบางฟังก์ชันอาจถูกตัดทอนลงไป ซึ่งในส่วนนี้อาจเลือกผลลัพธ์ระยะยาวมาประกอบทดแทนได้ เช่น เครื่องอบผ้าชนิดประหยัดพลังงานที่จะช่วยประหยัดเงินค่าไฟในระยะยาวได้นั่นเอง

• แบรนด์และการรับประกัน

การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าควรเลือกยี่ห้อแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เพราะจะช่วยคลายความกังวลเรื่องคุณภาพและมีบริการดูแลหลังการขายที่ดี นอกจากนี้ยังมีการรับประกันที่เป็นอีกเรื่องสำคัญยามที่สินค้ามีปัญหา

• รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

ปัจจุบันมีการรีวิวการใช้งานสินค้าแต่ละชนิดออกมาจำนวนมากบนโลกออนไลน์ ทำให้ผู้ที่กำลังมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ สามารถเข้าไปดูรีวิวเครื่องอบผ้าและตัดสินใจจากประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริงได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถรับชมรีวิวจากเว็บไซต์หลักของเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกัน

• Wash Tower รุ่น WT1410NHEG

สำหรับWash Tower รุ่น WT1410NHEG นับเป็นไอเทมที่มีความคุ้มค่าสูง เพราะเปรียบได้กับเครื่องซักผ้าอบแห้งในตัว โดยการผสมผสานของเครื่องซักผ้าและอบผ้าทำให้ประหยัดพื้นที่ได้มาก เหมาะสมแม้ห้องมีขนาดเล็ก โดยฝั่งเครื่องซักผ้าสามารถจุได้ถึง 14 กิโลกรัม ขณะที่เครื่องอบผ้าจุได้ 10 กิโลกรัม ทั้งยังประหยัดเวลาด้วยการซักและอบแห้งได้ภายใน 1 ชั่วโมง มีระบบ Allergy Care ที่ช่วยปกป้องผู้ใช้จากไรฝุ่นในบ้าน ควบคุมง่ายผ่านทั้งเสียงและแอปพลิเคชัน LG ThinQ™

นอกจากนี้เลือกซื้อ LG Wash Tower รับโปรสุดคุ้ม! แถมฟรี ตู้เย็น Macaron GN-X392PBGB เรียกว่าซื้อ 1 ได้ถึง 2 หมดเขต 31 กรกฎาคมนี้

• เครื่องอบผ้า รุ่น RV10VHP2B

เครื่องอบผ้า รุ่น RV10VHP2B ระบบ DUAL Inverter Heat Pump™ มากับความจุ 10 กิโลกรัม โดยระบบดังกล่าวจะช่วยให้อบผ้าแห้งได้อย่างประหยัดเวลาและพลังงานมากขึ้น ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ลดปัญหาเศษใยผ้าและฝุ่นด้วย Dual Filter ที่เพิ่มความสะอาดถึง 2 เท่า ทั้งยังอบผ้าแห้งสนิทได้ตั้งแต่ครั้งแรก

• เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น FV1413H2BA

ครบจบในเครื่องเดียวด้วย เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น FV1413H2BA ที่สามารถซักได้ที่ความจุ 13 กิโลกรัม และอบผ้าได้ 8 กิโลกรัม ด้วยระบบ AI DD™ ช่วยถนอมผ้ามากขึ้นได้ถึง 18% มั่นใจเรื่องความสะอาดด้วย TurboWash™360° ที่ใช้เวลาเพียง 39 นาที หัวฉีดน้ำ 3D หลายหัวฉีด ครอบคลุม 4 ทิศทาง นอกจากนี้ยังได้ Steam+ เข้ามาช่วยลดรอยย่น จัดการไรฝุ่นที่ทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจอีกด้วย

• LG Styler ตู้ถนอมผ้า รุ่น S5GOC

หลังจากซักผ้าและอบผ้าได้อย่างสะอาดแล้ว อย่าลืมมองหา LG Styler ตู้ถนอมผ้า รุ่น S5GOC ที่ช่วยรักษาเสื้อผ้าของคุณให้ดูดีอยู่เสมอ นอกจากดีไซน์ที่สวยงาม ยังช่วยกำจัดฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดรอยยับด้วยการเขย่าผ้า 200 ครั้งต่อนาที ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับเนื้อผ้า ด้วยระบบ TrueSteam™ ช่วยฆ่าเชื้อในเนื้อผ้า ทำให้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสุขภาพของผู้ใช้งานอีกทางหนึ่ง

พิเศษ! Rainy Promotion ซื้อเครื่องซักผ้าคู่กับเครื่องอบผ้า แถมฟรี สแต็ควางซ้อนเครื่องอบผ้า (Dryer Stacking Kit) หมดเขตวันที่ 31 สิงหาคมนี้

สนใจเครื่องอบผ้าที่มีคุณภาพและไว้ใจได้ ต้องไม่ลืมมองหาแบรนด์คุณภาพอย่าง LG ที่มีประสบการณ์ยาวนานเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 02-057-5757 ทุกวันเวลา 08:00 – 18:00 น.