ทุกวันนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านถือเป็นอุปกรณ์ที่หลายครอบครัวต้องมีติดบ้านไว้ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ททีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ไมโครเวฟ เครื่องดูดฝุ่น หรือเครื่องซักผ้า เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าตัวช่วยในการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ เพราะแค่คุณนำเสื้อผ้าที่ต้องการซักใส่เครื่อง ตามด้วยน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม จากนั้นกดปุ่ม Start เครื่องซักผ้าเริ่มต้นทำงาน ระหว่างนั้นสามารถเอาเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้แบบสบาย ๆ
ถึงเครื่องซักผ้าช่วยให้คุณเบาแรงลง แต่การเลือกซื้อเครื่องซักผ้ามีปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาไม่น้อยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นประเภทของตัวเครื่องที่สอดคล้องกับที่อยู่อาศัย ความจุของตัวถังที่เหมาะกับปริมาณผ้าที่ซัก หรือฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงตามความต้องการ ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้เครื่องซักผ้าที่เหมาะสมกับวิถีการซักผ้าของตนมากที่สุด วันนี้ LG มีขั้นตอนการเลือกเครื่องซักผ้ามาฝากกัน

ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องซักผ้า ควรตรวจสอบพื้นที่จัดวางว่าเหมาะสมกับเครื่องซักผ้าประเภทไหน หากพักอาศัยอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด ไม่สะดวกในการเปิดปิดฝาเครื่องด้านบน แนะนำให้เลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้า แต่ขนาดเครื่องต้องเหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งเครื่องซักผ้า ดังนั้นอย่าลืมวัดความกว้าง ความยาวของพื้นที่ไปด้วย เพื่อให้ได้เครื่องซักผ้าที่หมาะสมกับพื้นที่ของคุณ

แม้เครื่องซักผ้ามีการทำงานคล้าย ๆ กัน แต่มีรายละเอียดอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้าม นั่นคือประเภทของเครื่องซักผ้า โดยแต่ละประเภทก็มีข้อดีแตกต่างกันออกไป
● เครื่องซักผ้าฝาบนสองถัง (กึ่งอัตโนมัติ) เหมาะกับผู้ที่ต้องการซักผ้าในแต่ละครั้งไม่เยอะมาก ทั้งมีข้อดีคือสามารถซักได้หลายครั้งโดยไม่เปลี่ยนน้ำ เคลื่อนย้าย และติดตั้งได้ง่าย
● เครื่องซักผ้าฝาบน มาพร้อมโปรแกรมอัตโนมัติให้เลือกใช้งาน และสามารถนำเสื้อผ้าเพิ่มเข้าไปในระหว่างรอบการซักได้สะดวก เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ในบ้านน้อย
● เครื่องซักผ้าฝาหน้า เหมาะกับผู้ที่เน้นความสะอาดและช่วยถนอมผ้าเป็นหลัก ทั้งสามารถจุผ้าในการซักแต่ละครั้งได้มาก หากบ้านไหนมีสมาชิกเยอะ ขอแนะนำเครื่องซักผ้ารูปแบบนี้
● เครื่องซักผ้าและอบผ้าในตัว ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่ตากผ้าจำกัด เพราะสามารถทำให้ผ้าแห้งได้โดยไม่ต้องเอาไปตาก ทั้งยังช่วยลดสารก่อโรคภูมิแพ้ได้ด้วย

ฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ที่มาพร้อมเครื่องซักผ้ามีความแตกต่างกันออกไป อย่างเครื่องซักผ้าบางรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันซักด่วน ฟังก์ชันตั้งเวลาซัก และฟังก์ชันแช่ผ้า ขณะที่บางรุ่นมีฟังก์ชันล้างถังซักที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียที่ด้านในของถังซัก ดังนั้นควรพิจารณาคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ก่อนซื้อเครื่องซักผ้า

ความจุของตัวถังเครื่องซักผ้า เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ห้ามมองข้าม เพราะหลายครั้งผู้ซื้อมักตั้งคำถามว่า อยู่คนเดียว ควรใช้เครื่องซักผ้าที่ตัวถังมีความจุกี่กิโลกรัมดี หรือถ้าอยาก ซักผ้านวม เองต้องใช้เครื่องซักผ้ากี่กิโลกรัมดี ? คำตอบที่ได้ ช่วยให้การเลือกซื้อเครื่องซักของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยสามารถเทียบจำนวนผ้ากับความจุของถังซักผ้าเป็นกิโลกรัม ดังตารางด้านล่าง

เชื่อว่าหลายคนตั้งงบสำหรับซื้อเครื่องซักผ้าไว้คร่าว ๆ แล้ว แต่เพื่อความคุ้มค่าด้านการใช้งาน แนะนำให้ลองเปรียบเทียบเครื่องซักผ้ารุ่นที่มีความจุใกล้เคียงกันว่าเครื่องไหนตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงจุดกว่ากัน เช่น เครื่องซักผ้า ความจุ 8 กิโลกรัม และความจุ 10 กิโลกรัม มีราคาต่างกันไม่เกิน 2,000-3,000 บาท แต่ปรากฎว่า เครื่องซักผ้า ความจุ 10 กิโลกรัม มีโปรแกรมการซักที่หลากหลายและตรงกับความต้องการมากกว่า การเพิ่มงบอีกเล็กน้อยก็ช่วยให้คุณได้เครื่องซักผ้าที่ตรงใจมากขึ้น

เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์อีกประเภทที่เสื่อมสภาพลงไปตามอายุการใช้งาน ดังนั้นควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มีการรับประกันทั้งตัวสินค้าและอะไหล่ ตลอดจนมีทีมช่างผู้ชำนาญคอยดูแล ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า หลังซื้อเครื่องซักผ้ามาใช้งานแล้วมีปัญหาเกิดขึ้นจะได้รับการดูแลอย่างดี เหมือนกรณีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนของแบรนด์ LG ที่ระบุการรับประกันเครื่องซักผ้าไว้อย่างชัดเจน ดังตารางด้านล่าง

ซื้อเครื่องซักผ้าความจุกี่กิโลกรัมดี ให้ตอบโจทย์การใช้งาน ? ถือเป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตที่ผู้ซื้อให้ความสนใจ เพราะความจุของถังซักผ้าส่งผลต่อขนาดของตัวเครื่อง และคำตอบของเรื่องนี้คือ ควรเลือกของตัดออกค่ะความจุของถังซักให้สอดคล้องกับจำนวนสมาชิก ความถี่ในการซัก ตลอดจนปริมาณเสื้อผ้าที่ซักในแต่ละครั้ง เช่น หากคุณซักเสื้อผ้าครั้งละประมาณ 25-30 ชิ้น แนะนำให้เลือกเครื่องซักผ้าความจุ 5-7 กิโลกรัม แต่ถ้าจำนวนสมาชิกเยอะ ซักผ้าครั้งหนึ่งมากกว่า 50 ชิ้น เครื่องซักผ้าที่ควรซื้ออาจต้องมีความจุถึง 11 กิโลกรัม เป็นต้น มาถึงตรงนี้ใครที่ยังไม่รู้ว่าซื้อเครื่องซักผ้ารุ่นไหนดีให้ตรงใจ ตามมาหาคำตอบกัน

ขอชวนคุณพ่อบ้านคุณแม่บ้านมายกระดับการซักเสื้อผ้าอย่างเหนือชั้น ด้วยเครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น FV1413S2BA จากแบรนด์ LG ที่มาพร้อมระบบการซักแบบ TurboWash™360° ที่ช่วยให้คุณสามารถซักผ้าได้สะอาดหมดจดภายในเวลาเพียง 39 นาที พร้อมการปกป้องเนื้อผ้าที่มากกว่า หัวฉีดน้ำ 3D หลายหัวฉีด ครอบคลุม 4 ทิศทาง เข้าถึงทุกตารางนิ้วของเสื้อผ้าภายในเครื่อง นอกจากนี้มอเตอร์ก็เป็นแบบอินเวอร์เตอร์ ทำงานเงียบ และไม่มีแรงสั่นสะเทือน นอกจากนี้ เครื่องซักผ้าฝาหน้า LG รุ่น FV1413S2BA ยังมีฟังก์ชัน Steam+™ ซึ่งเป็นการซักผ้าด้วยน้ำร้อนความร้อนสูงถึง 60 องศา โดยน้ำร้อนจะเข้าไปกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ไรฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกาะฝังลึกตามเสื้อผ้าได้หมดจดถึง 99.9% ช่วยให้มั่นใจได้เลยว่าเสื้อผ้าของคุณหลังซักจะสะอาดล้ำลึก และระบบถนอมเนื้อผ้าอัจฉริยะ AI DD™ ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์เนื้อผ้าในแต่ละครั้งที่ซัก ก่อนลือกรูปแบบการหมุนของถังซักให้เหมาะกับผ้าแต่ละประเภทมากที่สุด ถือว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า LG รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่รู้ว่าควรจะเลือกโปรแกรมซักไหนให้เหมาะกับเสื้อผ้า

มาต่อกันที่เครื่องซักผ้าฝาบน ขนาด 15 กิโลกรัม ของแบรนด์ LG อีกรุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องประหยัดพลังงาน ช่วยลดเสียงรบกวนขณะซัก และเพิ่มประสิทธิภาพในการซักด้วยเครื่องซักผ้าระบบ Smart Inverter นอกจากนี้ เครื่องซักผ้าฝาบน LG รุ่น T2515VS2B มาพร้อมระบบถังซักแบบ TurboDrum™ และจานหมุนแบบ Punch+3 มาคอยสร้างคลื่นน้ำภายในถังซัก เพื่อให้ผ้ากระจายตัวออกจากกัน และเพิ่มประสิทธิภาพการซักด้วยโปรแกรม Auto Pre Wash ที่เข้ามาช่วยขจัดคราบฝังลึกในผ้า เหมือนเป็นการเพิ่มการซัก 1 ครั้งก่อนการซักปกติ ใครที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกทุกซอกทุกมุม เครื่องซักผ้า LG ฝาบนรุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว

เครื่องซักผ้า LG TWIN Wash™ รุ่น F2721HTWV เป็นตัวเครื่อง 2 ชั้น มีความสูงประมาณ 1.35 เมตร มีจุดเด่นที่สามารถแยกซักได้พร้อมกันสองถังในเวลาเดียวกัน ช่วยให้คุณซักผ้าได้มากขึ้นโดยใช้เวลาที่น้อยลง นอกจากนี้ยังสามารถใส่ผ้าเพิ่มระหว่างซักได้ง่าย ๆ เพียงกดปุ่ม Add Item จากนั้นเปิดประตูเพื่อใส่ผ้าเพิ่มเติมได้ไม่ว่าจะเสื้อตัวใหญ่ หรือผ้าชิ้นเล็ก และทำการซักต่อได้เลยไม่ต้องเสียเวลา ทั้งยังมีเทคโนโลยี TrueSteam™ เป็นการรวมเข้าด้วยกันของหลากหลายฟังก์ชันเพื่อขจัดสารก่อภูมิแพ้และคราบสกปรกฝังลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมาพร้อมกับเทคโนโลยี 6 Motion Direct Drive ที่มีลักษณะเป็นถังซักเคลื่อนที่ถึง 6 ทิศทาง ทำให้ซักผ้าได้สะอาดและถนอมผ้าในคราวเดียว ที่สำคัญสามารถอบผ้าได้ในเครื่องเดียวกัน ช่วยให้ผ้าของคุณทั้งสะอาดและแห้งได้ในขั้นตอนเดียว

ปิดท้ายด้วยเครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง LG รุ่น TT07NOMG ขนาดความจุ 7.5 กิโลกรัม แต่ในด้านประสิทธิภาพนั้นไม่น้อยหน้ารุ่นอื่น ๆ เลย ด้วยมีโปรแกรมการซักให้เลือกถึง 3 รูปแบบคือ Gentle Normal และ Strong ขณะที่ตัวถังผลิตจากเรซิ่นช่วยป้องกันสนิมได้ ด้านนอกผลิตจากพลาสติกเคลือบสารป้องกันหนูเข้า

ทั้งยังมีระบบหยุดเครื่องอัตโนมัติเมื่อเปิดฝาปั่นช่วยเพิ่มความปลอดภัยและอุ่นใจในการใช้งานเครื่องซักผ้า 2 ถังรุ่นนี้อีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้ามาใช้งานที่คอนโดหรือบ้าน แต่ไม่รู้ว่าควรซื้อเครื่องซักผ้าขนาดความจุเท่าไหร่ ถึงตอบโจทย์การใช้งานของทุกคนในครอบครัว คงได้คำตอบแล้วว่า ต้องคำนึงถึงจำนวนสมาชิกหรือปริมาณเสื้อผ้าที่ซักแต่ละครั้งเป็นหลัก เพื่อให้ได้เครื่องซักผ้ามาช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้า พร้อมประหยัดเวลาในการซัก ส่วนผู้ที่สนใจเครื่องซักผ้า LG ไม่ว่าจะเป็นแบบฝาหน้า ฝาบน TWIN Load หรือ 2 ถัง ที่ช่วยขจัดคราบสกปรกได้หมดจด
แถมไม่ต้องกังวลกับสารก่อภูมิในใยผ้าที่อาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ สามารถพิจารณาเครื่องซักผ้าทั้ง 4 รุ่นในข้างต้นไว้เป็นหนึ่งในทางเลือก สุดท้ายถ้าสนใจเครื่องซักผ้า LG หรือผลิตภัณฑ์ LG ในหมวดหมู่อื่น ๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 02-057-5757 ทุกวันเวลา 08:00 – 18:00 น.

● เช็คราคาเครื่องซักผ้าทุกรุ่น เลือกแบบไหนดี? ผ้าสะอาดทุกจุด
● ซักสะอาดเต็มประสิทธิภาพ เครื่องซักผ้า 15 กิโล ใส่ผ้าได้กี่ชิ้น
● บอกทริค 7 วิธีซักผ้าหน้าฝนไม่ให้เหม็นอับ กลิ่นหอมทนนาน