We use cookies, including cookies from third parties, to enhance your user experience and the effectiveness of our marketing activities. These cookies are performance, analytics and advertising cookies, please see our Privacy and Cookie policy for further information. If you agree to all of our cookies select “Accept all” or select “Cookie Settings” to see which cookies we use and choose which ones you would like to accept.
เมื่อปัญหาฝุ่น PM 2.5 มลพิษในอากาศรุนแรงอย่างต่อเนื่องในไทย
จนเรียกได้ว่าตลอดทั้งปีเราจะต้องเผชิญกับมลพิษและ PM 2.5 กันแบบเลี่ยงไม่ได้ เครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นไอเทมจำเป็นสำหรับทุกบ้าน สำหรับบ้านไหนที่ยังไม่มีเครื่องฟอกอากาศ หรือต้องการซื้อเพิ่ม/ซื้อใหม่
มาอัปเดตกันว่าถ้าจะต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศตอนนี้จะต้องเลือกเครื่องฟอกอากาศอย่างไร ให้รับมือกับปัญหาสภาพอากาศในปัจจุบัน และใช้งานให้คุ้มค่าที่สุด
8 เทคนิคเลือกเครื่องฟอกอากาศ อัปเดตล่าสุด
ภาพ : สำรวจการใช้งานก่อนเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ
1. สำรวจการใช้งาน
ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้ก่อนว่าเครื่องฟอกอากาศจะนำไปตั้งใช้งานในห้องไหน เพื่อจะสามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับห้องนั้น ๆ ได้ เช่น ห้องของเล่นลูกหรือห้องที่มีเด็กเล็ก ไม่ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่เกินไป ที่เสียงต่อการล้ม หรือเป็นอันตรายต่อเด็ก ๆ ได้ หรือถ้าเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องนอน, ห้องทำงาน ก็ควรมองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีโหมดทำงานเงียบ
ภาพ : เลือกชนิดตัวกรองของเครื่องฟอกอากาศ
2.เลือกชนิดตัวกรอง
แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของเครื่องฟอกอากาศก็คือชนิดของตัวกรองต่าง ๆ ที่ให้มากับเครื่อง เราควรเรียนรู้การทำงานของตัวกรองเพื่อเลือกให้ตรงกับความต้องการ โดยตัวกรองที่เราพบเห็นกันบ่อย ๆ จะมีดังนี้
- Pre - Filter ตัวกรองชั้นต้นมีความสามารถในการดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ เช่น เส้นผม, ขนสัตว์ และฝุ่นละอองอนุภาคขนาดใหญ่ เป็นต้น
- HEPA Filter ตัวกรองที่สามารถดักจับฝุ่นละอองอนุภาคเล็กได้ ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น PM2.5, สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ , เชื้อแบคทีเรีย หรือฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กเพียง 0.3 ไมครอน
- Carbon Filter ตัวกรองที่มีความสามารถในการดูดซับก๊าซ ควัน กลิ่นสารเคมี กลิ่นธูป กลิ่นบุหรี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ภายในบ้าน
เพราะฉะนั้นเวลาเลือกเครื่องฟอกอากาศก็จำเป็นจะต้องดูชนิดของไส้กรองด้วยว่าตรงกับพื้นที่การใช้งานหรือไม่ อย่างบ้านไหนเลี้ยงสัตว์ก็ต้องโฟกัสตัวกรอง Pre-Filter ที่มีประสิทธิภาพสูง หรือคนในครอบครัวเป็นโรคหอบหืด แพ้สารเคมี ตัวกรอง Carbon Filter ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคได้
3.อายุการใช้งานแผ่นกรอง
แผ่นกรองแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานไม่เท่ากัน และเสื่อมสภาพไม่เท่ากัน เช่น แผ่นกรอง HEPA มีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) หรือ Pre-Filter ก็จะมีทั้งแบบใช้แล้วทิ้ง และแบบที่สามารถถอดล้างได้ เพราะฉะนั้นนอกจากศึกษาอายุการใช้งานแผ่นกรองแต่ละชนิดแล้ว ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่สามารถเปลี่ยนเฉพาะแผ่นกรองชั้นที่หมดอายุได้ เพื่อไม่ให้เป็นการสิ้นเปลือง
ภาพ : สำรวจขนาดห้องก่อนเลือกเครื่องฟอกอากาศ
4.สำรวจขนาดห้อง
อีกเรื่องสำคัญของการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ คือการสำรวจขนาดห้อง เพื่อช่วยให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วห้อง เคล็ดลับการเลือกนั่นคือเราควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีกำลังการฟอกอากาศกว้างกว่าพื้นที่ห้องของเราไปอีกเล็กน้อย เพื่อมั่นใจได้ว่าเราจะได้รับอากาศคุณภาพจากทั่วทุกมุมห้องจริง ๆ
5.เปรียบเทียบค่า CADR
สืบเนื่องจากเรื่องขนาดห้อง สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญคือค่า CADR หรือ Clean Air Delivery Rate (ปริมาณอากาศที่เครื่องฟอกอากาศสามารถทำความสะอาดได้) ซึ่งจะเป็นค่าที่บอกประสิทธิภาพการฟอกอากาศอย่างแท้จริงของเครื่องฟอกอากาศ เพราะฉะนั้นแล้วห้องยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ค่า CADR ก็ควรมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปกติแล้วขนาดห้องที่เหมาะสมและค่า CADR
จะถูกระบุอยู่ในสเปคเครื่องฟอกอากาศเราสามารถศึกษาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อได้
ภาพ : ตรวจสอบระดับเสียงการทำงานเครื่องฟอกอากาศ
6.เช็คระดับเสียงขณะทำงาน
ระดับเสียงในการทำงานเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศเช่นกัน เพราะเครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้งานเป็นเวลายาวนานในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นการที่เครื่องฟอกอากาศส่งเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลาคงไม่ดีแน่
โดยทั่วไปแล้วเครื่องฟอกอากาศจะมีระดับเสียงขณะทำงานอยู่ที่ 40 - 50 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับที่ไม่รบกวนการพักผ่อน นอกจากนั้นยังมีโหลด Sleep ที่ช่วยลดเสียงรบกวนยิ่งขึ้นโดยจะมีระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 20 - 30 เดซเบลเท่านั้น
7.เลือกฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่ฟอกอากาศแต่ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเสริมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชันการแจ้งเตือนคุณภาพอากาศ, ฟังก์ชันปล่อยลมเย็น, ฟังก์ชัน Pet mode สำหรับบ้านเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ, ฟังก์ชัน UVnano ทำความสะอาดแบคทีเรียภายในตัวเครื่อง รวมไปจนถึงฟังก์ชันในการชาร์จโทรศัพท์มือถือ ให้เราสามารถเลือกใช้ได้ตามแต่ละไลฟ์สไตล์
ภาพ : เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีดีไซน์กลมกลืนกับการตกแต่ง
8.เลือกดีไซน์ที่เหมาะกับการตกแต่ง
นอกจากฟังก์ชันที่มีให้เลือกมากมายแล้ว
การออกแบบในทุกวันนี้ก็มีตัวเลือกให้เราสามารถเลือกมาแมตช์กับการตกแต่งห้องได้หลากหลายมากเช่นกัน ไม่ว่าดีไซน์เรื่องความสวยงามสำหรับสายโมเดิร์น, มินิมอล หรือจะเป็นงานดีไซน์สำหรับการใช้งานอย่างบางรุ่นก็จะออกแบบมาให้สามารถกลายเป็นโต๊ะวางของได้เพื่อการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น
แนะนำ 2 เครื่องฟอกอากาศ พร้อมฟังก์ชันที่แตกต่าง
1.เครื่องฟอกอากาศดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ เป็นได้มากกว่าเครื่องฟอกฯ LG PuriCare Aero Furniture
เคยไหมพยายามตกแต่งห้องเท่าไหร่
แต่เครื่องฟอกอากาศก็ดูโดดออกมาไม่สามารถกลมกลืนกับห้องได้ จบปัญหากับเครื่องฟอกอากาศจาก LG ที่จัดเต็มงานดีไซน์ สามารถเป็นโต๊ะสำหรับใช้งานและตกแต่งห้องให้เราได้ มีหลากหลายสีให้เลือก นอกจากนั้นยังสามารถเป็นโคมไฟ และเป็นที่ชาร์จไร้สายสำหรับมือถือได้ด้วย เพียงแค่วางมือถือด้านบนโต๊ะ ส่วนเรื่องการฟอกอากาศก็ยังจัดเต็มกับแผ่นกรองอากาศถึง 3 ชั้น
● แผ่นกรอง 3 ชั้นกำจัดหมดทั้งฝุ่นละอองอนุภาคใหญ่ / เล็ก และกลิ่นไม่พึงประสงค์
● โคมไฟ Mood Lighting เปลี่ยนสีไฟได้ตามต้องการ
● แท่นชาร์จไร้สาย สะดวกสบายชาร์จมือถือได้ทันทีที่วางบนโต๊ะ
● มีให้เลือกทั้งหมด 3 สีนั่นคือ สีแดง, เลมอน และสีขาว
ราคา 14,900 บาท*
รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ
พร้อมบริการส่งฟรีทั่วไทย สำหรับสมาชิก LG Member เท่านั้น**
2.เครื่องฟอกอากาศพร้อมสายลมเย็นสบาย LG PuriCare AeroTower
สำหรับคนที่ชอบความคุ้มค่า ซื้อ 1 ได้ถึง 2 ต้องเครื่องฟอกอากาศ LG เครื่องนี้ที่มาพร้อมกับการฟอกอากาศสะอาด และมอบลมเย็นสบายเหมาะมาก ๆ สำหรับอากาศบ้านเรา เลือกปรับกำลังลมได้ตามต้องการ
แถมยังทำงานได้อย่างเงียบสนิทไม่รบกวนเวลาพักผ่อนด้วย
● แผ่นกรอง 3 ชั้นกำจัดหมดทั้งฝุ่นละอองอนุภาคใหญ่ / เล็ก และกลิ่นไม่พึงประสงค์
● โหมดกระแสลม 2 รูปแบบ โหมดส่งลมกว้างกระจายลมทรงพลัง และโหมดส่งลมธรรมชาติสำหรับลมเบาสบาย
● ทำงานเงียบเพียง 23 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงที่เงียบสงบกว่าห้องสมุด
● ควบคุมสะดวกสบายได้ผ่านแอปฯ LG ThinQ
ราคา 16,900 บาท*
รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ
พร้อมบริการส่งฟรีทั่วไทย สำหรับสมาชิก LG Member เท่านั้น**
ถอยเครื่องฟอกฯ เครื่องใหม่พร้อมโปรสุดพิเศษจาก LG
เตรียมพร้อมรับฤดูฝุ่น PM 2.5 พร้อมฟังก์ชันใหม่ ๆ กับเครื่องฟอกอากาศ LG ที่คิดมาแล้วว่าตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ ใครสนใจรุ่นไหน หรืออยากมองหาตัวเลือกเพิ่ม ยังมีเครื่องฟอกอากาศ LG ให้คุณเลือกตัดสินใจอีกมากมาย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ได้เครื่องฟอกอากาศที่ตอบโจทย์ไม่พอ
คุณสามารถซื้อได้ในราคาสุดพิเศษแนะนำเลยโปรโมชันสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก LG Member ที่ยกขบวนทั้งส่วนลดและบริการสุดพิเศษมาให้คุณ เพียงแค่สมัครสมาชิก LG Member และสั่งซื้อออนไลน์ที่ www.LG.com
● รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ
● Special Offer ผ่อน 0% สูงสุดถึง 18 เดือน *เฉพาะบัตรที่ร่วมรายการ
● แอลจีบริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ พร้อม Exclusive Care+ สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ
สมัคร LG Member เพื่อรับสิทธิพิเศษ
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์
**ตรวจสอบเงื่อนไขส่วนลดและสิทธิพิเศษ LG Member ได้ที่