เทรนด์สารทำความเย็นระบบปรับอากาศ HVAC ปี 2025 พร้อมถังสารทำความเย็นสีเทา

เทรนด์สารทำความเย็นระบบปรับอากาศ HVAC ปี 2025 

2025/01/25

ปี 2025 นับเป็นปีสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมระบบปรับอากาศ HVAC ในส่วนของสารทำความเย็น โดยมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตามพิธีสารมอนทรีออล (Montreal Protocoal) ฉบับแก้ไข ณ กรุงคิกาลี (Kigali Amendment) ซึ่งเป็นข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับสารทำความเย็นจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2025 ทั้งในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศอื่นๆ หันมาใช้สารทำความเย็นที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง มาดูกันว่าการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับเหล่านี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมระบบปรับอากาศ HVAC อย่างไรบ้าง

01การเปลี่ยนข้อบังคับ

ก. ข้อบังคับเรื่องก๊าซฟลูออริเนตของสหภาพยุโรป

 

สหภาพยุโรปมีแผนเลิกใช้ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFCs) ในตลาดยุโรป เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศในปี 2030 และความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ตามข้อตกลงปารีส กฎระเบียบห้ามการผลิต การติดตั้ง และการนำเข้าระบบแยกส่วนเดี่ยวที่มีสารทำความเย็นน้อยกว่า 3 กิโลกรัม เมื่อใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) มากกว่า 750 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 การห้ามนี้จะขยายไปยังผลิตภัณฑ์ HVAC อื่นๆ เช่น เครื่องปั๊มความร้อนอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่ปี 2027 ถึง 2035

สหภาพยุโรปประกาศห้ามใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) เกิน 750 ภายในปี 2025 พร้อมทั้งจะทยอยควบคุมการใช้งานในระบบปั๊มที่ใช้ความร้อน

 

 โปรแกรม SNAP (Significant New Alternatives Policy) ของ EPA สหรัฐอเมริกา

 

สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (US EPA) มีแผนที่จะเลิกใช้สารที่ทำลายชั้นโอโซน โดยการห้ามผลิตภัณฑ์ที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) สูง ตามแผนนี้ โปรแกรมการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีได้ห้ามการผลิต ติดตั้ง และนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) มากกว่า 700 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 ซึ่งรวมถึงเครื่องทำความเย็น เครื่องปั๊มระบบความร้อน และระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ โปรแกรมนี้มีเป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไปในผลิตภัณฑ์ระบบเครื่องปรับอากาศ HVAC ตั้งแต่ปี 2025 ถึงปี 2028 รวมถึงการจำกัดระบบ VRF ที่ใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) มากกว่า 700

* https://www.epa.gov/climate-hfcs-reduction/technology-transitions-program

EPA ประกาศห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) เกิน 700 ภายในปี 2025 โดยมีผลบังคับใช้กับเครื่องทำน้ำเย็นและระบบปั๊มที่ใช้ความร้อน

02 สารทำความเย็นรูปแบบใหม่ที่เป็นทางเลือกทดแทน

ก. สารทำความเย็นที่กำลังถูกทยอยยกเลิกใช้งาน

 

ตามข้อบังคับใหม่จะมีการจัดการลดการใช้งานสารทำความเย็นที่ถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดอย่างเช่น R22 และ R410A โดย R22 ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะในกรณีรีไซเคิลเท่านั้น ซึ่งมีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ที่ 1810 ในขณะที่ R410A มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ที่ 2088 สารทั้งสองประเภทมีค่ามากเกินกว่าที่ข้อบังคับใหม่กำหนด สารทำความเย็นเหล่านี้ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศระบบ HVAC ซึ่งทำให้มีความจำเป็นต้องสร้างทางเลือกใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากทั้ง R22 และ R410A เป็นสารที่ค่อนข้างคงตัวและไม่ติดไฟ ตัวเลือกทดแทนใหม่จึงต้องมีความเสถียรภาพเช่นเดียวกัน พร้อมกับมีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ที่ต่ำและมีประสิทธิภาพการให้พลังงานที่ดีเยี่ยม

การเปรียบเทียบสารทำความเย็น R22 และ R410A กับค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP), ODP, การใช้งาน และรายละเอียดการเลิกใช้

 

ข. R32 & R454B

 

ในบรรดาสารทางเลือกหลากหลายแบบ สารทำความเย็น R32 และ R454B ถือเป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพในการทดแทน R410A ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำและมีความเสถียรสูง R32 ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของ R410A (และ R454B) เป็นสารทำความเย็นแบบองค์ประกอบเดียวที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำที่ 675 ไม่จำเป็นต้องผสมกับสารอื่น ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าต่อการใช้งาน และเนื่องจากเป็นสารทำความเย็นแบบองค์ประกอบเดียว จึงสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ R454B มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำกว่าที่ 466 และมีแรงดันในการทำงานและอุณหภูมิไอเสียใกล้เคียงกับ R410A ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการทดแทนได้โดยตรง ทั้ง R32 และ R454B เป็นนับเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการทดแทน R410A ในรูปแบบที่แตกต่างกัน

* https://trane.eu/uk/about-trane/blog-post.html?ld=11

* https://www.r32reasons.com/docs/default-source/default-document-library/the-facts-about-r-32-and-r-454b.pdf?sfvrsn=f711fd62_0

 

ค.สารทำความเย็นธรรมชาติ

 

สารทำความเย็นธรรมชาติ เช่น R717, R744, R290 และ R600a มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำกว่าสารทำความเย็นสังเคราะห์ เช่น R32 และ R454B มาก และมีราคาย่อมเยากว่า อย่างไรก็ตาม R717, R290 และ R600a มีความเสี่ยงในการติดไฟสูงกว่า ต้องใช้มาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดและการจัดการเป็นพิเศษ ในส่วนของประสิทธิภาพ สารทำความเย็นสังเคราะห์ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสารทำความเย็นธรรมชาติ

สารทำความเย็น 717, 744, 290 และ 600a มีข้อดีหลายประการ ทั้งค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำ ต้นทุนต่ำ ให้ประสิทธิภาพพลังงานสูง และเป็นไปตามข้อกำหนดกฎระเบียบ

03 ข้อบังคับจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและชีวิตประจำวันอย่างไร

 

 

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) สูง ไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาดในสหรัฐอเมริกา แต่การขาย การใช้งาน และการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นก่อนปี 2025 นั้นไม่ได้ถูกห้ามแต่อย่างใด ดังนั้น ผู้บริโภคจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสารทำความเย็นในระบบปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน HVAC ในทันที อย่างไรก็ตาม ตามการแก้ไขคิกาลีและพิธีสารมอนทรีอัล ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ในขณะที่ประเทศอื่นๆ จะต้องปรับปรุงข้อบังคับภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยข้อจำกัดในการจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแนวโน้มทั่วโลกในการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับนี้ อาจส่งผลให้การใช้สารทำความเย็นต้องห้ามประเภทนี้ลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาของสารทำความเย็นดังกล่าวสูงขึ้น

"ผลกระทบของข้อบังคับเกี่ยวกับสารทำความเย็นที่มีต่ออุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศระบบ HVAC และผู้บริโภค "

04 ผลิตภัณฑ์ของ LG ที่ใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำ

LG เริ่มปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของข้อบังคับเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน โดยการใช้สารทำความเย็นชนิดใหม่ที่มีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง เครื่องทำความเย็นแบบแรงเหวี่ยงไร้น้ำมันของ LG กำลังเปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำ เช่น R-1233zd (GWP 1) และเครื่องทำความเย็นแบบ Scroll Inverter กำลังเปลี่ยนมาใช้ R32 ระบบปรับอากาศแบบแปรผัน Multi V i (VRF) ใช้ R32 ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ Multi V ประเภทอื่นๆ กำลังเปลี่ยนจาก R410A ไปใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำ เช่น R32 และ R454B รวมทั้งเครื่องปั๊มความร้อนรุ่นใหม่ของ LG ใช้ R290 ซึ่งมีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำที่ 3 หรือ R32

เครื่องทำความเย็นและเครื่องปั๊มระบบความร้อนของ LG ที่ใช้สารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำ

 

ข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับสารทำความเย็นในสหรัฐอเมริกาและยุโรป มีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อภาวะโลกร้อน เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน HVAC ที่มุ่งมั่นมอบอากาศเย็นสบายและสะอาดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยการเปลี่ยนผ่านไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง ในฐานะที่ LG เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้ เรามีส่วนร่วมในการผลักดันประเด็นเหล่านี้ เพื่อนำพาอากาศที่บริสุทธิ์มาสู่ชีวิตประจำวันได้แบบยั่งยืน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบปรับอากาศ HVAC ของ LG

*รูปแบบผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและเงื่อนไขการจัดการ

ติดต่อเรา

ติดต่อสอบถามได้ที่นี่หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เราจะติดต่อกลับหาคุณในภายหลัง